รายงานโดย อภัสสร สินโพธิ์
การเรียนรู้นอกสถานที่แหล่งโบราณสถานกู่สันตรัตน์ ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา 428 333 แหล่งท่องเที่ยวตามประวัติศาสตร์ไทย (Historical Sites in Thai History) ทางหลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดขึ้นสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกประวัติศาสตร์เพื่อการท่องเที่ยว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวตามยุคสมัยประวัติศาสตร์นอกสถานที่ ถือได้ว่าเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ผ่านการฝึกเป็นมัคคุเทศก์ และฝึกใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว
![]() |
กู่สันตรัตน์
สถานที่แรกพวกเรามาแวะชมกันคือ "กู่สันตรัตน์" ตั้งอยู่ที่ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เป็นโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งราชอาณจักรขอม ในช่วงนี้อารยธรรมของเขมรมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด เพราะว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ทรงโปรดให้สร้างถนนเชื่อมระหว่างเมืองพระนครและเมืองต่างๆ และโปรดให้สร้างที่พักคนเดินทาง "บ้านมีไฟ" หรือ "ธรรมศาลา" ควบคู่ไปกับ "อโรคยาศาล" หรือ "สถานพยาบาลชุมชน" ซึ่งการสร้าง อโรคยาศาล อาจเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในการแผ่ขยายอำนาจทางการเมืองและเผยแผ่พระพุทธศาสนามหายานไปยังพื้นที่ต่างๆ และหลักฐานจากสิ่งก่อสร้างเหล่านี้อาจบ่งบอกได้ว่า ที่ตั้งของศาสนสถานเป็นชุมชนที่มีความสัมพันธ์กับเมืองพระนครอย่างใกล้ชิดทั้งในด้านการปกครองและความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
กู่สันตรัตน์จึงเป็นหนึ่งในอโรคยาศาลที่ถูกสร้างขึ้นตามเส้นทางแสวงบุญ ซึ่งเป็นศิลปะแบบเขมรโบราณที่เจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยสุดท้าย โดยมีแผนผังแบบเดียวกับอโรคยาศาลที่พบทั่วไป อันประกอบด้วย ปรางค์ประธาน หรือปราสาทประธาน บรรณาลัย โคปุระ หรือซุ้มประตู กำแพงแก้ว และสระน้ำ และกรมศิลปากรก็ได้ประกาศขึ้นทะเบียนกู่สันตรัตน์เป็นโบราณสถานอย่างถูกต้องเมื่อปี พ.ศ. 2478
กู่สันตรัตน์จึงเป็นหนึ่งในอโรคยาศาลที่ถูกสร้างขึ้นตามเส้นทางแสวงบุญ ซึ่งเป็นศิลปะแบบเขมรโบราณที่เจริญรุ่งเรืองในยุคสมัยสุดท้าย โดยมีแผนผังแบบเดียวกับอโรคยาศาลที่พบทั่วไป อันประกอบด้วย ปรางค์ประธาน หรือปราสาทประธาน บรรณาลัย โคปุระ หรือซุ้มประตู กำแพงแก้ว และสระน้ำ และกรมศิลปากรก็ได้ประกาศขึ้นทะเบียนกู่สันตรัตน์เป็นโบราณสถานอย่างถูกต้องเมื่อปี พ.ศ. 2478
![]() |
ทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นด้านหน้าปราสาทมีซุ้มประตูทางเข้า หรือ โคปุระ ก่อด้วยศิลาแลง ถัดมาเป็นส่วนของประตูทางเข้าสู่ตัวปราสาทประธาน ปรากฏแผ่นทับหลังอยู่เหนือซุ้มประตู อีกทั้งยังมีเสาประดับกรอบประตูทั้งสองข้าง แผ่นทับหลังและเสาประดับกรอบประตูทำด้วยหินทราย แต่ไม่มีการสลักลายใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนกับว่ายังทำไม่เสร็จ
ตัวปราสาทมีลักษณะรูปสี่เหลี่ยมย่อมุม มีประตูทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันออก ส่วนทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกเป็นประตูหลอก เมื่อพิจารณาที่ตัวปราสาทประธาน ที่มีการสันนิษฐานว่ายังสร้างไม่เสร็จ ก็เนื่องจากว่าบริเวณด้านหน้าเหนือทับหลังทางเข้าตัวปราสาทประธานนั้น ยังเป็นช่องว่างสามเหลี่ยม เพราะบริเวณนี้เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะเป็นหน้าบัน ที่ทำด้วยหินทรายที่มีการสลักลวดลายประกอบ สิ่งสำคัญต่อมาคือแผ่นทับหลัง ที่ตั้งอยู่เหนือกรอบประตูนั้นมีแผ่นหินทรายวางไว้ แต่ยังไม่มีการสลักลวดลายใดๆ ทั้งสิ้น
![]() |
จากลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น สันนิษฐานว่า ปราสาทองค์นี้ยังสร้างไม่เสร็จ แต่ช่างได้สร้างไปตามแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะแบบเขมร คือแม้ว่าตัวปราสาทประธานจะมีการสร้างด้วยหินทราย หรือหินศิลาแลง แต่ส่วนที่สำคัญทั้ง 3 ส่วน คือ หน้าบัน ทับหลัง และเสาประดับกรอบประตู ต้องทำด้วยหินทรายเสมอ เพราะว่าหินทรายมีคุณสมบัติเหมาะแก่การแกะสลักลวดลายเป็นอย่างยิ่ง
ภายในตัวปราสาทประธานยังพบรูปเคารพพระพุทธไภษัชยคุรุพร้อมกับรูปพระชิโนรสซึ่งตั้งอยู่สองข้าง สร้างขึ้นตามความเชื่อของเขมรโบราณที่ว่า พระพุทธไภษัชยคุรุสามารถรักษาโรคต่างๆ ให้หายได้ ซึ่งในวัฒนธรรมเขมรโบราณ มีความนับถือพระพุทธไภษัชยคุรุ หรือ พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต เป็นอย่างมากโดยเฉพาะช่วงพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พระองค์ทรงโปรดให้สร้าง พระพุทธไภษัชยคุรุไวทูรยประภา เป็นพระปฏิมาประธานในศาสนสถานที่รักษาผู้ป่วย หรือที่เรียกว่า "อโรคยาศาล" เพื่อให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวเขมรที่มารักษาโรค
กู่สันตรัตน์นอกจากจะเป็นสถานที่ทางโบราณคดีและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว กู่สันตรัตน์ยังเป็นที่เคารพนับถือของคนในชุมชนอีกด้วย ดังเช่นประเพณีสรงกู่ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ในทุกๆ ปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญและการเคารพบูชาสถานที่แห่งนี้จากรุ่นสู่รุ่น
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกู่สันตรัตน์
สถานที่ต่อมาที่อยู่ใกล้กัน คือ "พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกู่สันตรัตน์" เป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่เก็บรวบรวมและจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ตั้งแต่ยุคนครจำปาศรี และยุคถัดมาในสมัยวัฒนธรรมเขมร จนถึงยุคปัจจุบันที่มีการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมาเก็บรวบรวมกันไว้ เพื่อบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ห่างจากกู่สันตรัตน์ประมาณ 300 เมตร สามารถเดินถึงกันได้
ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุทั้งที่มาจากกู่สันตรัตน์ พระธาตุนาดูน และโบราณวัตถุอื่นๆ โดยแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ดังนี้

2. ห้องแสดงโบราณวัตถุที่มาจากกรุพระธาตุนาดูน โดยได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร ให้นำมาจัดแสดงรวม 15 พิมพ์
3. ห้องจัดแสดงโบราณวัตถุอื่นๆ ที่ชาวบ้านขุดพบนำมาบริจาคให้ เช่น เคื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชุมชน พวกเครื่องจักสาน หม้อ ไห เครื่องมือทางการเกษตร จอบ เสียม กำไร เป็นต้น เป็การรวบรวมสิ่งของตั้งแต่ยุคก่อนมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองนี้ เนื่องจากมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของคนในอดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนแห่งนี้ นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเขต อำเภอนาดูน ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวนมากมาย
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน (ไม่มีวันหยุด)
อัตราค่าเข้าชม
เข้าชมฟรี
การเดินทาง
ระยะทางจาก อำเภอเมือง จังหวัดสารคาม 60 กม. หมายเลขทางหลวง 2040 ถึงแยกทางเข้าอำเภอนาดูนเี้ยวซ้าย 1 กม. หมายเลขทางหลวง 2179 เลี้ยงซ้ายเข้ามา 500 เมตร
การติดต่อ
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกู่สันตรัตน์ ตั้งอยู่ที่ 110 ม. 2 ต.กู่สันตรัตน์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม 44180
ติดต่อสอบถาม 043706510
จากการลงพื้นที่ศึกษาโบราณสถานกู่สันตรัตน์และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกู่สันตรัตน์นั้น ทำให้เราได้เห็นถึงวิถีชีวิตและความเชื่อของคนในอดีต รวมถึงภูมิปัญญาต่าง ๆ ของคนโบราณที่สร้างขึ้นมาเป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหรือต่อยอดองค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ในอนาคต และการลงศึกษาในสถานที่จริงในครั้งนี้ ยังเป็นการฝึกประสบการณ์การเป็นมัคคุเทศก์ทางประวัติศาสตร์ที่ต้องลงพื้นที่จริง พร้อมทั้งฝึกการใช้ภาษาอังกฤษในการอธิบายหรือเล่าประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่าง ๆ ที่เข้าเยี่ยมชม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาที่จะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต
อ้างอิง
SARAKHAM360 NEWS.(2561). เปิดตำนานนครจำปาศรี พาชมกู่สันตรัตน์ โรงพยาบาลอารยธรรมขอม สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://www.sarakham360.com/กูู่สันตรัตน์-นาดูน/.
จังหวัดสารคาม.(2555). กู่สันตรัตน์. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก www.mahasarakham.go.th/mkweb/index.php/479/227.
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร.(มปก.). พระไภษัชยคุรุ. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก www.virtualmuseum.finearts.go.th/bangkoknationalmuseums/index.php/th/hilight/39-พระไภษัชยคุรุ.html.
สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น.(มปก.). กู่สันตรัตน์ บ้านกู่โนนเมือง ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก www.finearts.go.th/fad9/parameters/km/item/กู่สันตรัตน์-บ้านกู่โนนเมือง-ตำบลกู่สันตรัตน์-อำเภอนาดูน-จังหวัดมหาสารคาม-2.html
อโรคยาสถาน.(มปก.). ความเป็นมาอโรคยาศาล. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก www.pharmacy.msu.ac.th/exhibition_new/aroka-his.html.
อีสานร้อยแปด.(2561). กู่สันตรัตน์ มหาสารคาม. สืบค้นเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2562, จาก https://esan108.com/กู่สันตรัตน์-มหาสารคาม.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น