วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เกร็ดความรู้และสถานที่ที่น่าสนใจในเวียดนาม

Fun Facts about VIETNAMเกร็ดความรู้ประเทศเวียดนาม

เวียดนาม ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในประเทศอาเซียน เป็นประเทศที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานและตกเป็นเมืองขึ้นของเจ้าอาณานิคมทำให้ได้รับอิทธิพลและปรากฏให้เห็นดังเช่นในปัจจุบันในกลิ่นอายของการผสมผสานกันทางวัฒนธรรม จึงทำให้เวียดนามมีเสน่ห์น่าค้นหาเป็นอย่างมากถ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสักครั้ง แต่อาจจะมีบางประเด็นหรือบางสิ่งที่เราไม่รู้จักเกี่ยวกับเวียดนาม ดังนั้นแล้ว เรามาทำความรู้จักกับเกร็ดความรู้ของเวียดนามกันบ้างดีกว่าค่ะ


                                                                                           เรียบเรียงโดย กัญญาณัฐ โพธิ์คำ
                                                                                                                    จิราภรณ์ ทรงพระ



วัฒนธรรมต่างแดนที่ผสานกันอย่างลงตัวที่เวียดนาม 
          เนื่องจากเวียดนามนั้นได้ตกเป็นเมืองขึ้นของเจ้าอาณานิคม โดยเฉพาะการตกเป็นเมืองขึ้นของจีนและฝรั่งเศสเป็นเวลาหลายปี ทำให้เวียดนามได้รับวัฒนธรรมจากหลากหลายแห่ง อย่างจีนที่มีอิทธิพลในด้านศาสนาและสถาปัตยกรรม อย่างเช่น ลัทธิความเชื่อต่าง ๆ ลัทธิขงจื๊อที่ให้ความสำคัญต่อการนับถือบรรพบุรุษ ลัทธิเต๋าที่สอนเรื่องความสมดุลของธรรมชาติ รวมไปถึงศาสนาพุทธนิกายมหายานที่สอนในเรื่องของกรรมและในด้านสถาปัตยกรรมจีน อย่างเช่น พระราชวังเว้ สถาปัตยกรรมของพระราชวังจักรพรรดิ์ที่แสดงออกถึงศิลปกรรมจีน ด้วยสี สัญลักษณ์ จนถึงตัวอักษรที่เขียนแบบจีน
          ร่องรอยของอารยธรรมฝรั่งเศสในด้านอาหารและภาษา อย่างเช่น การรับประทานกาแฟคู่กับเฝ๋อ (Phở) หรือก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ในยามเช้าคือมรดกทางวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศสที่ยังหลงเหลือจากยุคอาณานิคม อาหารที่ชื่อว่า แบ๋งหมี่ (Bánh mì)’ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศสโดยการนำเอาขนมปังฝรั่งเศสหรือบาแกตต์มาทำเป็นแซนด์วิชเวียดนาม อีกทั้งการใช้ภาษาฝรั่งเศสทั้งในชุมชนและมหาวิทยาลัยเช่นในมหาวิทยาลัยฮานอยที่มีภาควิชาภาษาฝรั่งเศส
          วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มากับศิลปะการป้องกันตัวและวัฒนธรรมร่วมสมัยจากอเมริกา อย่างเช่น กีฬาเบสบอล ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมในอเมริกาที่ถูกนำมาเผยแพร่ในเวียดนาม

มีถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
          โดยพื้นที่ 75% ของประเทศประกอบด้วยภูเขาและป่าไม้และมีถ้ำเป็นจำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของถ้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย คือ ถ้ำซันดอง (Son Doong) ซึ่งหมายถึง ถ้ำภูเขาแม่น้ำ” ถ้ำนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 2-5 ล้านปีก่อน โดยการไหลผ่านของแม่น้ำที่กัดกร่อนหินปูนใต้ภูเขาเป็นเวลานาน จนชั้นหินปูนอ่อนตัวลง เพดานถ้ำจึงถล่มลงมาจนกลายเป็นโพรงช่องแสงขนาดใหญ่ในปัจจุบัน ถูกค้นพบในปี ค.. 1991 โดยชาวเวียดนามแต่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ จนกระทั่งนักสำรวจชาวอังกฤษเดินทางมาพบและเข้าถึงด้านในของถ้ำเป็นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 2009 ความใหญ่โตของถ้ำนี้กินพื้นที่กว่า 5.5 ไมล์ (8.8 กิโลเมตร) ใหญ่ขนาดที่มีป่าดงดิบและแม่น้ำ เกิดเป็นระบบนิเวศน์ของตัวเองซ่อนอยู่ สูงขนาดที่สามารถสร้างตึกระฟ้าสูง 40 ชั้นไว้ภายในถ้ำได้ จึงถือได้ว่าเป็น กำแพงของเวียดนาม’ เลยทีเดียว

เทือกเขาที่ยังมีชีวิต (มีประชากร)
          เวียดนามเปรียบเสมือนเป็นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์เล็ก ๆ หลายกลุ่มโดยมีถึง 54 กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น อีกทั้งยังมีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตน ซึ่งสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าต่าง ๆ ในเวียดนามได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว เป็นศูนย์รวมที่สะท้อนความสามัคคีของชนเผ่าต่าง ๆ ในเวียดนาม มีส่วนร่วมสร้างสรรค์เอกลักษณ์วัฒนธรรมเวียดนาม ซึ่งเป็นระบบวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายในความเป็นเอกภาพ อย่างเช่น กลุ่มชาติพันธุ์ห่าเกียง ม้ง โลโล เป็นต้น

ปีใหม่เวียดนาม (Tet)
           เทศกาลเต๊ด(Tet) เป็นเทศกาลอรุณแรกแห่งปี หรือชาวเวียตนามเรียกว่า เต๊ด เหวียน ด่าน (Tet Nguyen Dan) ถือเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติที่สำคัญที่สุดของชาติเวียดนามเลยทีเดียว เทศกาลเต๊ดจะเริ่มขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ โดยเริ่มต้นในวันที่ 23 เดือน 12 จะมีพิธีเซ่นไหว้เต๋า กวน หรือเทพเจ้าแห่งครัว ด้วยผลไม้สด อาหารคาวหวาน รองเท้าชุดแต่งกายขุนนาง และปลาคราฟ เพื่อที่จะส่งเทพเจ้าแห่งครัวขึ้นไปรายงานความเป็นไปในแต่ละครอบครัว ในช่วง วันก่อนปีใหม่นี้จะมีการทำความสะอาดบ้านเรือน สิ่งของใด ๆ ที่ชำรุดเสียหายก็ทิ้งไปและเปลี่ยนใหม่ เพื่อที่จะต้อนรับสิ่งดี ๆ ในปีใหม่และทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะมารวมตัวกันในเทศกาลนี้ ซึ่งถือว่าไม่เหมือนกับปีใหม่ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่เฉลิมฉลองในช่วงเดือนมกราคม

การให้ของขวัญบางประเภทถือว่าเป็นความ โชคร้าย
          อย่างเช่น การให้ผ้าเช็ดหน้าบางสิ่งที่เป็นสีดำดอกไม้สีเหลืองหรือดอกเบญจมาศ ฉะนั้นแล้ว ถ้ามีเพื่อนหรือคนเวียดนามที่รู้จัก อย่าให้สิ่งของพวกนี้กับพวกเขาเป็นของขวัญนะคะ

จักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เห็นได้ทั่วไปในเวียดนาม
          เมื่อคิดถึงพาหนะที่ใช้โดยสารในเวียดนาม อันดับแรกที่ทุกคนจะต้องนึกถึงนั่นคือ รถจักรยานยนต์ ถือว่าเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของคนเวียดนามไปเสียแล้ว โดยคาดว่าน่าจะมีจักรยานยนต์ที่ได้จดทะเบียนประมาณ 45 ล้านคันภายในเวียดนาม ซึ่งในประเทศเวียดนามนั้นมีประชากรมากกว่า 90 ล้านคนและยังเป็นตลาดในการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุด แต่การที่จะมีรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเพราะคนที่จะมีรถยนต์ได้จะต้องเสียภาษีถึง 200-300% เลยทีเดียว

อัตราค่าจ้างที่ต่ำค่าหนึ่งในโลก
          โดยถูกบันทึกไว้ว่าเป็นอัตราค่าจ้างที่ต่ำเป็นอันดับที่ 32 ของโลก รายงานค่าจ้างแรงงานทั่วโลกขององค์การเเรงงานระหว่างประเทศได้บอกไว้ว่า ค่าแรงในเวียดนามเฉลี่ยแล้วยังคงต่ำกว่าหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนและเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ ค่าแรงของเวียดนามมีสัดส่วนเพียง ใน 20 เท่านั้นและยังคงล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง ทำให้เวียดนามกลายเป็นฐานการผลิตโลก มีบริษัทต่างชาติมาตั้ง อย่างเช่น บริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์อย่าง Samsung, LG และ Canon มาตั้งฐานการผลิตของตนไว้ที่นี่ เวียดนามจึงหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างทีละนิด เพื่อก้าวไปเป็นธุรกิจภาคการบริการให้มากขึ้น 

อาหารเวียดนามถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแหล่งหนึ่งของโลก
          อาหารเวียดนามมีลักษณะโดดเด่นเป็นของตัวเองเนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ทอดยาวตามแนวชายฝั่ง ทำให้อาหารเวียดนามแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน มักจะมีผักสดหลากหลายชนิดในแทบทุกเมนู และมีน้ำจิ้มที่หลากหลาย เครื่องปรุงรสส่วนใหญ่เป็นแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าจีน เช่น เครื่องปรุงรสเปรี้ยวใช้มะขาม มะนาว ไม่นิยมน้ำส้มสายชู มักจะมีส่วนผสมของสมุนไพร มีเทคนิคการปรุงที่เลี่ยงการผัด ทอดและใช้น้ำมัน

ไวน์งูในเวียดนาม
          เหล่ว ซาน (Ruou Ran) เป็นไวน์งู ใช้ดื่มเพื่อสุขภาพ พละกำลังและการซ่อมแซมร่างกาย โดยจะใช้งูตัวใหญ่หนึ่งตัวต่อขวดโหลหนึ่งขวด และมักจะใส่รากไม้หรือสมุนไพรเพื่อเพิ่มรสชาติหรือรักษาคุณภาพหรืออาจจะใส่งูตัวเล็ก ๆ เพิ่มลงไปอีกทั้งใส่แมงป่องหรืออาจจะเป็นตุ๊กแก หลังจากนั้นเติมด้วยข้าวหมักเข้าไปแล้วก็จะหมักทิ้งไว้เป็นเดือน ๆ จึงจะนำมาดื่มได้นั่นเอง ซึ่งไวน์งูจากเวียดนามได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน



เวียดนาม: ประเทศเดียวเหมือนเที่ยวทั่วโลก


ที่มา https://bit.ly/2Od6HvT
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) หรือเรียกย่อๆ ว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรอินโดจีนและมีรูปร่างเรียงเป็นรูปตัว ตามแนวชายฝั่ง โดยเวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่มีความหลากหลายสูง เช่น ในแง่ของประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยาวนานเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราช โดยเหตุการณ์ที่ทำคนทั่วโลกรู้จักเวียดนามคือ การทำสงครามยุทธภูมิเดียนเบียนฟู (เนินเขา A1) โดยการนำของโฮจิมินห์ ในแง่ชาติพันธ์ุของเวียดนามที่มีชาวเขาหลากหลายเผ่าพันธุ์ เช่น คนไต ชาวเย้า ชาวม้ง และขมุ ฯลฯ ที่อาศัยอยู่รวมกับคนชาติพันธุ์กินห์ (เวียดนาม) จนก่อให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ที่แปลก แตกต่างและไม่เหมือนใครอย่างลงตัว หรือในแง่ของวัฒนธรรม ก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะมีการรับเอาและผสมผสานทั้งวัฒนธรรมของจีน ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่มีกลิ่นอายของทั้งตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัวทำให้ที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ของเวียดนามแต่ละอันนั้นเป็น Unseen ที่ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด ดังนี้



1. นาขั้นบันไดที่ซาปา

ที่มา https://bit.ly/2yFCJMa
ซาปา ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศเวียดนามใกล้กับชายแดนจีนทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีและเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียดนาม ในอดีตเมืองซาปาจึงเคยถูกสร้างให้เป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม เพราะด้วยตัวเมืองซาปาที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่และอากาศที่เย็นตลอดปี จึงทำให้ซาปามีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนและการวางผังเมืองแบบอาณานิคมฝรั่งเศส (French Colonial) โดยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวนิยมไปเป็นอันดับต้นๆ ในซาปา คือ การทำนาขั้นบันได ที่เขียวขจีท่ามกลางลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างสวยงามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และมีฉากหลังคือเทือกเขาฟานสีปัน ภูเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศแถบอินโดจีน (จึงเป็นที่มาของฉายาหลังคาแห่งอินโดจีนและแอลป์แห่งอ่าวตังเกี๋ย)


ที่มา https://bit.ly/2AACDXx

จุดที่นักนักท่องเที่ยวนิยมไปและช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยว
การทำนาขั้นบันไดสามารถหาชมได้เกือบทุกมุมของเมืองซาปาแต่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมคือ หมู่บ้าน    กั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ของชาวม้งและหมู่บ้านตานพินของชาวเย้า โดยหมู่บ้านเหล่านี้นอกจากจะมีนาขั้นบันไดที่สวยงามแล้ว ยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่โดยรอบและยังสามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมของชาวเขาที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นอย่างใกล้ชิด 
การจะไปชมนาขั้นบันไดเมืองซาปานั้นมีช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน โดยช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป นาข้าวจะเขียวขจี แต่นักท่องเที่ยวต้องระวังเรื่องสภาพอากาศเพราะเป็นช่วงฤดูฝนของเวียดนาม ขณะที่ช่วงต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงที่นาขั้นบันไดสวยงามที่สุด หากเข้าสู่ช่วงกลางจนถึงถึงปลายเดือนนาข้าวจะมีสีเหลืองทอง สวยงามแต่ถ้าเดินทางมาในช่วงหลังจากนั้น จะไม่มีนาขั้นบันไดให้ชม เนื่องจากชาวเขาจะเก็บเกี่ยวผลผลิตหมดไปแล้ว

2. พระราชวังเว้
ที่มา https://w.tt/2ESRDnL

เมืองเว้ตั้งอยู่ที่ภาคกลางของประเทศเวียดนาม เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามราว 400 ปีก่อนตั้งแต่ยังมีระบอบกษัตริย์ พระราชวังเว้แห่งนี้ได้รับอิทธิพลจากจีนอย่างมากมายเพราะเคยถูกปกครองโดยจีนนับพันปี ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม สี สัญลักษณ์ จนถึงตัวอักษรที่เขียนแบบจีนแต่ออกเสียงต่างไป (อักษรก๊วกงือ) พระราชวังเว้มีพื้นที่กว่า 5.2 ตร.กม. มีกำแพงเมืองมีกำแพงเมือง ชั้น ไล่เรียงกันไปในแต่ละชั้น กำแพงเมืองชั้นที่ คือ ป้อมปราการเมืองหลวงเว้ (Kinh Thah Hue) มีทางเข้า 10 ทาง และมีป้อมระวังภัย 24 ป้อม ด้านซ้ายจะมีซุ้มปืนใหญ่ กระบอกแทนฤดูกาลทั้ง คือ ร้อน ฝน ใบไม้ผลิ และหนาว ส่วนฟากขวามี กระบอก แทนธาตุทั้ง ในจักรวาล ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และโลหะ ตามความเชื่อแบบจีน ชั้นที่ เป็นป้อมปราการหลวง (Hoang Thanh)
 ปัจจุบันประตูเมืองทั้ง ประตูเปิดให้ทุกคนสัญจร ต่างจากในอดีตที่ประตูทางทิศใต้ (จุดขายตั๋ว) เป็นทางเข้าออกสำหรับกษัตริย์เท่านั้นประตูนี้จะเปิดตรงสู่ท้องพระโรงนามว่าพระราชวังไทฮัว หรือไท่ฮัว หรือไทฮวา (Thai Hoa Palace) ซึ่งเป็นจุดเด่นของทั้งหมด และในส่วนของกำแพงชั้นสุดท้ายคือ “ป้อมปราการต้องห้าม” (Tu Cam Thanh) ภายในกำแพงเป็นที่ประทับของกษัตริย์ทั้ง 13 พระองค์ ในราชวงศ์เหงียนและครอบครัว มีอีกชื่อว่าพระราชวังสีม่วง (Purple Palace) มีที่มาลึกซึ้งจากแสงแรกของพระอาทิตย์ที่มองเห็นเป็นสีม่วงสามารถอธิบายด้วยแถบรุ้งกินน้ำที่เมื่อแสงหักเหจะเห็นเป็นสีรุ้ง ซึ่งมีสีม่วงเป็นสีแรกนั่นเองกำแพงชั้นนี้มีประตูเข้าออก ประตู ภายในมีสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่างกันถึง 50 หลัง เช่น วังส่วนตัวของกษัตริย์ ที่พักของพระมเหสี ที่พักของสนม ห้องมหรสพ ห้องครัวสำหรับปรุงพระกระยาหารของกษัตริย์โดยเฉพาะ ห้องอ่านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งพระราชวังแห่งนี้มีความหมายทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์และความงดงามทางสถาปัตยกรรมจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2536

ที่มา https://bit.ly/2RlyuMo

เวลาเปิด-ปิด
วันจันทร์-วันอาทิตย์ เปิด 8:00–17:30 (ยกเว้นวันพฤหัสบดี เปิด 8:00–22:00)

3. บานาฮิลล์ 
ที่มา https://bit.ly/2SyxhCK


บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) ตั้งอยู่ที่เมืองดานัง ทางภาคกลางของประเทศเวียดนาม ในอดีตเคยเป็นสถานพักผ่อนตากอากาศของชาวฝรั่งเศส ในยุคที่เวียดนามอยู่ภายใต้การปกครอง จึงมีก่อสร้างอาคารบนยอดเขาให้มีบรรยากาศคล้ายกับยุโรป เพราะฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นที่พักตากอากาศดีที่สุดของเวียดนามเพราะแม้ว่าจะตั้งอยู่ที่ภาคกลางแต่อากาศด้านบนเขานั้นหนาวเย็นตลอดทั้งปีประมาณ 10 องศาเท่านั้น บานาฮิลล์เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งถูกเนรมิตขึ้นบนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึงประมาณ 1,487 เมตร 

มีจุดท่องเที่ยวกระจายกันไปโดยรอบแต่ละพื้นที่บนยอดเขา ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปเที่ยวชม และกระเช้าไฟฟ้าที่ว่านี้ ก็เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวและสูงที่สุดในโลกด้วย มีความยาวมากถึง 5,801 เมตร และสูง 1,368 เมตร ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสปุยเมฆหมอก และบางจุดมีเมฆลอยต่ำกว่ากระเช้าทำให้เมื่อเวลานั่งกระเช้ารู้สึกเหมือนว่าลอยได้พร้อมทั้งได้สูดอากาศบริสุทธิ์อันสดชื่นของยอดเขาแห่งนี้ด้วย

ที่มา https://bit.ly/2OYnKa8

สถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด
สวนสนุก Fantasy Park, สวนสนุก Disney Vietnam, วัดลีงอึ้งสวนดอกไม้ Le Jardin d’ Amour, โรงไวน์ Debay Wine Cellar, กระเช้าลอยฟ้าและสะพาน Golden Bridge นอกจากนี้ยังมีวัดและสถานที่พักผ่อนไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอรท์ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาด้วย

4. ฮอยอัน 
ที่มา https://bit.ly/2OVZaXo
ฮอยอัน (Hoi An) ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศเวียดนาม ห่างจากเมืองท่าดานังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ในสมัยของอาณาจักรจามปาบริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู 
ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัวซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโบราณฮอยอัน ในปี พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่าง ๆ ภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี สำหรับการมาเที่ยวชมเมืองฮอยอัน สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่เมืองเก่าบริเวณหัวถนนตรันฝู ภายในบัตรนั้นสามารถเข้าชมได้ สถานที่ภายใน วัน จะเลือกเดินเท้าเข้าชมเมือง เช่าจักรยาน หรือใช้บริการของสามล้อถีบก็ได้เช่นกัน เนื่องจากฮอยอันเป็นเมืองเล็ก ๆ มีถนนสายหลักเพียงไม่กี่เส้น ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็เที่ยวครบแล้ว

ที่มา https://bit.ly/2EPAFXe

สถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด
สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phouc Kien Assembly Hall), บ้านเลขที่ 101 (Old House No.101), บ้านเลขที่ 7 (Old House No.7), ศูนย์วัฒนธรรมและหัตถกรรม (Handicraft workshop and traditional music shop), พิพิธภัณฑ์เซรามิก (Museu of Trading Ceramics), แม่น้ำทูโบน (Thu Bon River)

5. โบสถ์โดเมนเดมารี 
ที่มา https://bit.ly/2zaGcSa

โบสถ์โดเมนเดมารีแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองด่าหลัต ทางภาคใต้ของเวียดนาม สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1930 โดย Zuzanne Humbert ภริยาของผู้ว่าการอินโดไชน่าชาวฝรั่งเศส ตั้งแต่ในสมัยที่ฝรั่งเศสยังปกครองเวียดนามในฐานะอาณานิคม ลักษณะของโบสถ์โดเมนเดมารีเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่ 17 กับรูปแบบของอาคารพื้นบ้านในเวียดนามออกมาเป็นโบสถ์ที่ดูภายนอกจะเหมือนกับบ้านพัก สูง ชั้น และโดดเด่นด้วยการทาสีชมพูอ่อน ๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่า โบสถ์เวียดนามแห่งนี้เป็นคอนแวนต์ที่มีแต่แม่ชีอยู่อาศัยนั่นเอง


อ้างอิง 

กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย. (2557). พระราชวังเว้ อาณาจักรต้องห้ามแห่งเวียดนาม. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.posttoday.com/travel/323747. 16 ตุลาคม 2561
จันจิรา อินทรศักดิ์. (มปก). นาขั้นบันได เวียดนาม มนตร์เสน่ห์แห่งขุนเขาในฤดูฝน. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://travel.kapook.com/view99905.html. 16 ตุลาคม 2561
เที่ยวเมืองในฝัน.(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://travel.trueid.net/detail/E0PnebYaa5E. 16 ตุลาคม 2561
เอิงเอย. (2560). บานา ฮิลล์ Ba Na Hills ดานัง เมืองฝรั่งเศสในเวียดนาม นั่งกระเช้าลอยฟ้า 
มปก. (มปป). บานาฮิลล์ ดินแดนแห่งความสนุกบนยอดเขาสูงแห่งดานัง ประเทศเวียดนาม. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://travel.kapook.com/view197331.html. 16 ตุลาคม 2561
มปก. (มปป). โบสถ์ คอนแวนต์โดเมนเดอมารี Domaine de Marie Conventhttp. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.vietnamonline.com/attraction/domaine-de-marie-church.html. 16 ตุลาคม 2561


มปก. (มปป). โบสถ์ คอนแวนต์โดเมนเดอมารี (Domaine de Marie Conventhttp, Dalat). (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.asiatravelroutes.com/th/vietnam/attractions/dalat/domaine-de-marie-convent.html. 16 ตุลาคม 2561
มปก. (มปป). ข้อมูลพื้นฐานของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.ditp.go.th/contents_attach/141176/141176.pdf. 16 ตุลาคม 2561
มปก. (2560). เที่ยวซาปา เมืองนาขั้นบันได ไอหมอก และขุนเขา. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://bit.ly/2yoSBl. 16 ตุลาคม 2561
AOM. (2561). สถานที่เที่ยวดานัง..เมืองใหม่สุดฮิปแห่งเวียดนาม!. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://tourkrub.co/blog/hip-danang-vietnam. 16 ตุลาคม 2561
Backyard Travel. (2017). 25 FUN & INTERESTING FACTS ABOUT VIETNAM THAT MAKE YOU WANT TO VISIT. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.backyardtravel.com/25-fun-interesting-facts-about-vietnam/15 ตุลาคม 2561
EXPAT WOMEN.COM. (2017). 15 Fun Facts About Vietnam That You Most Probably Didn't Know. แหล่งที่มา : https://www.expatwoman.com/vietnam/guide/15-fun-facts-about-vietnam-you-most-probably-didnt-know.15 ตุลาคม 2561
JASMINTA. (2560). เมอร์เคียว บาน่าฮิลส์ เฟรนซ์ วิลเลจ’ โรงแรมสุดหรูในเวียดนาม สวยเหมือนเมืองยุโรป!. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://travel.mthai.com/hotel-review/135693.html. 16 ตุลาคม 2561
LAYBUG. (2557). แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองฮอยอัน (Hoian) เวียดนาม. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://travel.mthai.com/world-travel/95329.html. 16 ตุลาคม 2561
Mushroom Trave. (2560). ซาปา ที่เที่ยว แสนโรแมนติก แห่งเวียดนามเหนือ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.mushroomtravel.com/page/best-sapa-vietnam. 16 ตุลาคม 2561
12GO. (มปป.). 15 Interesting, Unusual and Fun Facts About Vietnam. แหล่งที่มา : https://12go.asia/en/vietnam/interesting-facts15 ตุลาคม 2561






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น